Thursday, September 27, 2007

ภิกษุสันดานกา



มาว่ากันเรื่องนี้ซะหน่อย กำลังเป็นประเด็นเลย จริงๆที่เขียนเรื่องนี้เพราะเผอิญตัวเองได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่คุณตาคุณยายและพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งมาประท้วงด้วย

"นานาจิตตังครับ"

เรื่องนี้เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกันของศิลปิน กับคณะผู้เฒ่าที่ยังไม่ได้ทำเลสิก(เลสิก : กระบวนการทำให้สายตากลับมามองได้ชัดเจน โดยไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์)

มีคุณยายท่านหนึ่งถามผมว่า นี่เค้าเรียกงานศิลปะเหรอ ทำไมเอาพระมาล้อเลียนอย่างนี้ ถ้าให้เค้าวาดรูปพ่อแม่ตัวเองบ้างจะทำมั๊ย ผมก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็สังเกตการณ์ต่อไป (ตามประสาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนแก่อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะรำคาญหรอกนะ แต่ว่าคุยยาก อธิบายไปถึงยังไงก็ไม่ยอมทำความเข้าใจอยู่ดี)

หันไปมองรอบๆตัว เจอป้ายผ้าเขียนว่า"ศิลเปอะ" (-_-") ,เสียงพระสวดอะไรสักอย่าง , พระใช้กล้องมือถือถ่ายรูป , คุณตายืนดมยาดม , แม่ชียืนหลบแดด , ใครไม่รุ้แต่งตัวยังกะโฆษกมวย มายืนเรียกร้องกันปาวๆๆ เสียงด่า สาปแช่ง จากปากคุณยายชี หลังจากนั้นกลุ่มผู้คร่ำครึในกระพี้ก็เคลื่อนขบวนไปเรียกร้องกันที่ไหนต่อก็ไม่รุ้ ...ช่างเค้าเหอะ

ภาพชิ้นนี้เป็นผลงานของศิลปินชื่อ อนุพงษ์ จันทร ศิษย์เก่าคณะจิตรกรรม ปัจจุบันเป็นอาจารย์ที่ม.ลาดกระบังครับ ตัวศิลปินเองก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเจอกระแสต่อต้าน และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด ภาพนี้วาดจากจีวร และพระในภาพมีปากเหมือนอีกา รอยสักตามตัวเป็นรูปสัตว์กำลังผสมพันธุ์กัน (ผมเองก็เคยผ่านตาผลงานของศิลปินท่านนี้มาบ้าง แต่ไม่ใช่ภาพนี้นะ เป็นโปสเตอร์ประกอบงานประกวดศิลปินปีก่อนๆนี่แหละครับ แปะอยู่ที่หน้าหอ เป็นภาพที่ดึงดูดให้ยืนดูได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว กะว่าพอหมดโครงการจะไปขอมาแปะหน้าห้องตัวเองซะหน่อย ดันมีคนตัดหน้าซะนี่ )

ส่วนตัวอยากให้มองว่าภาพนี้เป็นการสะท้อนภาพของสังคมผู้ห่มผ้าเหลืองในปัจจุบัน มิใช่การล้อเลียนเพื่อความสนุกสนาน อย่างที่ฝรั่งมันเอารูปพระพุทธเจ้ามาสกรีนเป็นลายกกน. มันคนละวัตถุประสงค์ คนละเรื่องกันเลยนะ หากเรามัวมองกระจกที่สะท้อนแต่ภาพลวงที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวหน้าใสเปรี๊ยะ เราก็จะไม่มีวันเห็นแผลเน่าเฟะ ไม่มีวันรู้เลยว่าเรามีขี้กลากตรงไหนบ้าง

แล้วคำว่าภิกษุสันดานกานี่ก็มีอยู่แล้วนะครับในพระไตรปิฎก ไม่ได้บัญญัติศัพท์มาเรียกลอยๆ เข้าใจว่าสมัยก่อนก็คงมีบุคคลบางจำพวกที่บวชเข้ามาเป็นกาฝากศาสนา ทำตัวไม่สมกับอยู่ในผ้าเหลืองมิใช่น้อย เลยมีการกล่าวถึงเรื่องนี้ในพระไตรปิฎกด้วย แต่ผู้ชุมนุมท่านกล่าวว่าเรื่องนี้ได้ศึกษามาแล้ว เนื้อความไม่ได้สื่อรุนแรงถึงขนาดที่ภาพของคุณอนุพงษ์สื่อออกมา

"แม่วัวกำลังจะตกลูก ศิลปินเดินผ่านมาวาดภาพลูกวัวนั้นเป็นลูกหมาป่าแทน ถามว่าแม่วัวตัวนั้นจะตกลูกเป็นหมาป่าหรือ?"

แก่นของศาสนาในความคิดของผม คือการเดินทางสายกลาง ปล่อยวาง ไม่ยึดติดไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้าย แต่ว่าที่เห็นในปัจจุบันศาสนามันมีแต่คนคิดถึงเรื่องของเปลือกและกระพี้ (กระพี้ : ส่วนของเนื้อไม้ที่ไม่ใช่แก่น มักใช้เปรียบสิ่งที่ไร้แก่น ไร้สาระ)

เมื่อตะกี๊ไปอ่านข่าวในเว็บต่างๆมามีคอมเม้นท์ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อันนี้ก็ต้องไปอ่านกันเอาเองนะครับว่าฝ่ายไหนใช้ปัญญาในการตอบมากกว่ากัน...

เนื่องจากผมอยากเป็นกลางนะครับ เลยไม่อยากเขียนเพิ่ม กลัวว่าจะบ่นอะไรจาบจ้วงล่วงเกินพระสงฆ์แถวพันธุ์ทิพย์ กุฎิติดแอร์ พระเซนซิทีฟที่ฟังเพลงรักแทนบทสวด พระที่ไม่ยอมบอกลาแฟนก่อนจะบวชแล้วดันโทรคุยกันทุกคืน เณรพนันบอล พระที่เก็บตงค์รอวันสึก พระที่หารายได้จากชื่อเสียงด้านวัตถุมงคลและสมณศักดิ์ พระค้ายาบ้า เณรจัดปาร์ตี้...

ที่ว่ามาเนี่ย เนื่องด้วยผมเคยบวชมาระยะเวลาสั้นๆก็พอจะรุ้บ้าง ใครไม่เคยบวชพระสมัยนี้ คงไม่รุ้หรอกนะครับว่าพระในยุคนี้น่ะเป็นยังไง พระที่ดีก็มีนะไม่ได้บอกว่าไม่มี แต่ที่ต้องพูดถึงฝ่ายที่ทำตัวไม่เหมาะ ก็เพราะอยากให้คงเหลือแต่พระที่ดีไง

บางทีสังคมไทยเราน่าจะเลิกถวายปัจจัยที่เป็นเงิน และเครื่องอำนวยความสะดวกที่เวอร์เกิน จะได้มีพระที่ตั้งใจสืบทอดศาสนาจริงๆให้เรากราบไหว้อย่างไม่รุ้สึกตะขิดตะขวงใจ

Monday, September 24, 2007

ABC


ทำไมเวลาพูดถึงtypo ต้องนึกถึงทำfontกันหมดด้วยฟ่ะ อยากทำเรื่องtypographicเว้ยไม่ได้สร้างอยากfont เง้อออ.... แล้วfontกับtypographic มันต่างกันยังไงล่ะ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเหมือนกัน เลยขอยกคำอธิบายส่วนหนึ่งมาจากเว็บของคุณไอ้แอนนนนน


Typeface
รูปลักษณ์ของแบบตัวอักษรแต่ละตัวแต่ละชุด ประกอบด้วย พยัญชนะ สระ ตัวเลข เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ ดังนั้นการออกแบบตัวอักษรจึงเรียกว่า Typeface Design
Font
ชุดแบบอักษรที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เพื่อการแสดงผล และสามารถพิมพ์ออกมาได้ทางเครื่องพิมพ์ มีการกำหนดรายละเอียดของความห่างระหว่างตัวอักษร ความห่างของช่องไฟเมื่อจัดเป็นคำหรือรูปประโยค และความห่างระหว่างบรรทัด (Kerning, Leading and Spacing) โดยสรุปคือ Typeface ที่เป็นชุดพร้อมนำไปใช้งาน
Type
ส่วนประกอบของงานออกแบบที่มีการนำ typeface (ในรูปของ Font) ไปใช้
Glyph
รูปร่างหน้าตา (Image) ของตัวอักษรแต่ละตัว ชุดของ Glyph ก็คือ Font
Typographic
มักใช้คู่กับคำว่า Design เป็น Typographic Design คือการออกแบบในเชิง Graphic โดยใช้ Type เป็นหลัก
Typography
ศาสตร์และทฤษฎีว่าด้วยเรื่องการออกแบบและจัดวางตัวอักษร
Lettering
การออกแบบตัวอักษรที่ไม่จำเป็นต้องครบชุด เป็นการเรียงคำหรือประโยคจากแบบอักษรที่มีอยู่แล้วหรือออกแบบขึ้นใหม่เพื่อความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของงานเป็นชิ้นๆไป เช่น การออกแบบเครื่องหมายการค้าต่างๆ


เห้อออ...อยากทำเว็บที่มันนำเสนอเรื่องที่ใช้typoกับศิลปะแขนงต่างๆอ่ะ ก็รุ้นะว่าถ้าทำมันก็มีแต่content ไม่ได้มีโปรแกรมมิ่งห่าเหวอะไรมากมาย แล้วก็ยังนึก gimmick อะไรไม่ออกเลย ที่บ่นมาจะมีใครเข้าใจกุบ้างมั๊ยเนี่ยว่ากุพล่ามอะไร .....เปลี่ยนหัวข้อซะก็หมดเรื่อง!!!

ปล.ภาพข้างบนน่ะมองเป็นศิลปะนะครับ อย่าทะลึ่ง
ปล2.อัพเดตนิดนึง ปรึกษาอาจารย์มาแล้ว ทำต่อดีกว่า เพิ่มapplicationให้มันเป็นgimmickของเว็บซะหน่อย ทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน
***เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดอิหยังก็ให้มันถึงที่สุด***

Thursday, September 20, 2007

search people profile in social network

โดนว่าไร้สาระมาเยอะ คราวนี้ก็ล่อกันแต่สาระเลยละกัน (สาระเลวหรือป่าวหว่า)
เห้อ... เดี๋ยวนี้อะไรๆก็social network แล้วคนที่เรารุ้จัก(หรืออยากรุ้จัก)มันมีprofileอะไรในบรรดาเว็บพวกนั้น ให้เราไปแหล่มได้บ้างหว่า จะถามเค้าก็จะหาว่าเสล่ออีก เอางี้ละกันถ้าลองมีเมลเค้าแล้วละก็กรอกมันลงไปซะ ---> http://com.lullar.com/
เว็บนี้ก็เป็นเว็บพวก search people profile ที่มีเว็บพวกsocial networkหลายยี่ห้อให้หากันอยู่พอควร คิดว่าคงไม่มีใครเล่นดะครบทุกเจ้าหรอกมั้ง


ขอแค่รุ้เมลเท่านั้นล่ะน่า ก็จะรุ้ขนาด,ส่วนสูง,วันเกิด ยังกะพวกสายลับจับบ้านเล็ก (เอ๊ะ!!หรือพวกโรคจิต)
แอบแหล่มกันหนุกแน่ จะไปดูดรุปในhi5 ดูประวัติในspaces live อ่านคอมเม้นท์ในmyspace หรือในอะไรที่มันมีก็เถอะ เอ้า..จะรีรออะไรกันอยู่ เริ่มภารกิจเลย..

Tuesday, September 11, 2007

favicon ไอคอนบนช่องกรอกurl อ่ะ

วันนี้จะมาแบ่งปันสาระความรู้เล็กๆน้อยๆนะ การทำไอคอนที่เราเห็นเว็บต่างๆเค้าแทรกกันตรงที่ใส่urlน่ะ



วิธีทำ หารูปที่ต้องการทำมาย่อในpsให้ได้ขนาด ซึ่งตัวไฟล์ จะมีขนาด 16x16 px เป็น .ico
ได้รูปแล้วเราก็แทรกคำสั่ง link rel="shortcut icon" href="favicon.ico"นี้ในhead แล้ว ก็ upload ไอคอนของเรา ในที่นี้เราตั้งชื่อว่าfavicon.ico งืมม..อ่านไปอ่านมาตั้งนานยังงงอยู่ดี
แต่เดี๋ยวก่อนซาร่า.. จอร์จมีอะไรจะบอก ถ้าคุณต้องการมีไอคอนที่ทำง่ายๆภายใน2นาที เรามีทางเลือกที่คุณแทบไม่ต้องทำอะไรมากมาย เรียกว่าง่อยแดกกันเลยทีเดียว ...let's go...


ขั้นตอนง่ายมาก browseรุปที่ต้องการ(ใหญ่เท่าบ้านก็ใส่มาเถอะ เสร็จแล้วมันจะเหลืออันเท่ามด) แล้วกดปุ่มgenerate ดาวน์โหลดโฟลเดอร์ไอคอน ใส่แท็กคำสั่ง(ดูreadmeในโฟลเดอร์ที่โหลดมาน่ะแหละ) ตอนอัพโหลดไฟล์ก็อัพมันขึ้นไปทั้งโฟลเดอร์น่ะแหละนะ .....เอ่อ นี่กุพยามอธิบายเรื่องง่ายให้เข้าใจยากขึ้นรึเปล่าว่ะ

Sunday, September 9, 2007

ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ

นั่งคนเดียวแล้วมองกระจก ที่สะท้องแสงจันทร์วันเพ็ญโดดเดี่ยวกับความเหงา อยู่กับเงาที่พูดไม่เป็นฟังเพลงเดิมๆที่เรารู้จัก แต่ไม่รู้ความหมายของมันหากฉันจะหลับตาลงสักครั้ง เพื่อพบกับเธอผู้เป็นนิรันดร์

หากความรักเกิดในความฝัน เราจุมพิตโดยไม่รู้จักกันปฏิทินไม่บอกคืนและวัน ดั่งที่ฉันไม่เคยต้องการแต่อยากให้เธอได้พบกับฉัน เราสมรสโดยไม่มองหน้ากันจูบเพื่อร่ำลาในความสัมพันธ์ ก่อนที่ฉันจะปล่อยเธอหายไปโดยไม่รู้จักเธอ

ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ทุกๆครั้งที่ฉันตื่นนอนบทกวีไม่มีความหมาย ฉันงมงายสวดมนต์ขอพรหากจะมีโอกาสสักหน จะร่ายมนต์กับสายน้ำจันทน์เพื่อจะได้หลับตาลงสักครั้ง แล้วพบกับเธอผู้เป็นนิรันดร์

Sunday, September 2, 2007

wanyen vs ratch-rian

wanyen fc
ratch-rian fc

jump kick

low energy

after kick-off