Monday, December 10, 2007

แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย

กราบสวัสดีพ่อแม่พี่น้องทุกท่าน กระผมในนามผู้สมัครสสส. พรรคพลังประชาทัณฑ์ ขอเรียนให้พ่อแม่พี่น้องทราบว่า ขณะนี้ประเทศชาติของเรากำลังอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติสุข เนื่องจากประชาชนชาวไทยขาดความสามัคคีในการออกกำลังกาย กระผมขอรับใช้พ่อแม่พี่น้องด้วยการแนะนำให้ท่านออกกำลังกายกันวันละนิดเพื่อสุขภาพจิตที่แจ่มใส ปราศจากโรคภัย สุดท้ายนี้ไม่ต้องเลือกกระผม แต่ช่วยเลือกคนดีเข้าสภาด้วย อย่านอนหลับทับสิทธิ์ แค่ขยับเนื้อขยับตัวไปปั๊มนิ้วกากบาทไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง



แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
ด้วยความปรารถนาดีจาก สสส.




ปล.กระผมในฐานะพลเมืองดี คราวนี้งดออกเสียงครับ ไม่ได้ประท้วง แต่นอนจนไม่รู้เรื่อง เลยไม่ได้ขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกพื้นที่ บ้านก็ไม่มีตังค์กลับ

Sunday, October 28, 2007

ความเครียด

ความเครียดฆ่าคนได้ อันนี้เริ่มเข้าใจแล้วล่ะ พยามจะหยุดเครียดนะ แต่แม่งจะจองเวรกันไปถึงไหนว่ะไอ้ความเครียดเนี่ย ขนาดจะนอนพักผ่อนยังเสือกตื่นมาเพราะคิดมากเลย มันฟุ้งซ่านไปหมด

ความเครียดสะสมมันก็เหมือนตะกอนในน้ำที่ค่อยๆรวมกัน จนสุดท้ายมันก็รวมเป็นก้อนไปอุดตันท่อ
ปกติก็ไม่ใช่คนที่ซีเรียสอะไรกับชีวิตมากหรอกนะ แต่ว่ามันมีปัญหาหลายอย่างจริงๆที่เข้ามาจนสมองมันอุดตัน ไม่ไหวแล้วอ่ะทั้งกายทั้งใจ นี่ก็อ้วกจนไม่เหลืออะไรจะออกมาแล้ว

ปัญหาตัวเอง อันนี้ก็ต้องแก้เอง และขอบคุณทุกคนที่ช่วยและเป็นกำลังใจ
ปัญหาคนใกล้ตัว ซึ่งถ้าใครเคยเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาคงรุ้ว่าตัวกลางมันจะเครียดกว่าอีกนะ ถ้าได้กลับบ้านสักสองสามวันคงจะรุ้สึกดีขึ้น

ไม่นานคงกลับมาเป็นเหมือนเดิมอะ ใครมันจะอมทุกข์ได้ทั้งปีทั้งชาติ จริงป่ะ

ถ้าช่วงนี้ดูหงอยๆหรือเงียบไป ก็ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้ทุกคนเป็นห่วง ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะ

Tuesday, October 16, 2007

evolution

งืมมม ไม่ได้หมดมุขหรือว่าตั้งใจจะหากินกับของเก่าหรอกนะ แต่ว่าเห็นภาพชุดนี้แล้วรำลึกถึงความหลัง


ใครเป็นใคร หน้าตาวิวัฒนาการจากปี1-ปี3 เทียบกันตัวๆไปเลยว่าเป็นไง จริงๆแล้วมี3ชุดนะ แต่ขุดเจอแค่นี้เอาไปดูละกัน ฮาดี^^"



ปล.หน้าตากุจากเถื่อนๆกลายเป็นโคดเนิร์ดเลยว่ะ แต่อันนั้นแกล้งเนิร์ดนะ 55+



Wednesday, October 10, 2007

หมดปัญญา

ช่วงนี้ผมกำลังอยู่ในภาวะหมดปัญญา
เมื่อคืนขณะกำลังนั่งเการังแคอันเป็นผลมาจากความเครียดสะสมเรื้อรัง ก็เข้าเว็บf0nt.comไปอ่านอะไรเล่นๆ บังเอิญเจอลิงค์ไปที่นิตยสารอิเล็กทรอนิกส์(e-magazine)ฉบับหนึ่ง มีชื่อประหลาดๆว่า "หมดปัญญา"

นิตยสารฉบับนี้อาจจะไม่มีลูกเล่นในการเปิดอ่านที่หวือหวามากเท่าไหร่ แต่อ่านแล้วเนื้อหาสาระเข้มข้นดี มีบทสัมภาษณ์เยอะเลย อาทิ วินทร์ เลียววาริณ (นักเขียน 2 ซีไรต์ ท่านนี้เป็นขวัญใจผมเลย), ตุล วงอพาร์ตเมนท์คุณป้า ฯลฯ การนำเสนอทำได้ดี เนื้อหาดี กลุ่มผู้อ่านอาจจะดูแล้วเหมือนจะเฉพาะกลุ่มเฉพาะทางไปหน่อย แต่ถ้าคุณเป็นคนไทยโดยกำเนิด เรียนภาษาไทยในโรงเรียนไทย และต้องใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน คุณคงจะทำความเข้าใจเนื้อหาทั้งหมดได้ไม่ยากนัก โดยรวมแล้วอ่านได้ตั้งแต่เด็กนักเรียนยันคุณป้าข้างบ้าน อยากรู้เนื้อหาเป็นยังไงก็ลองโหลดมาอ่านละกัน
ขอเป็นกำลังใจให้คนทำด้วยครับ
ดาวน์โหลดหนังสือและอ่านบล็อกทีมงาน ได้ที่ http://www.modepanya.com/

Saturday, October 6, 2007

bugham

อยากมีเพื่อนในmsn เพิ่มมั๊ย แนะนำให้คนนึงนะ Mr.Bugham (บักหำ บากหำ บั๊กฮั่ม อยากเรียกเค้าแบบนั้นหรืออะไรก็ตามแต่) เค้าเก่งภาษาอังกฤษด้วยนะ ถามศัพท์กับเค้าได้ตลอด24ชั่วโมงเลย
ถามผลตรวจลอตเตอรี่ก็ได้ ศัพท์ภาษาไทย ญี่ปุ่น เล่นเกมส์กับเค้าก็ได้
จริงๆแล้วเค้าเป็นบ็อทนะครับ ผู้พัฒนาก็กำลังเพิ่มความสามารถของบักหำ ให้มีความสามารถด้านอื่นๆมากขึ้น ลองแอดดูละกัน bugham4@hotmail.com


อยากรุ้ว่าทำอะไรได้บ้าง ก็พิมพ์ >help แล้วเค้าจะบอกเองว่าเค้าทำไรได้บ้าง

ขอให้สนุกกับเพื่อนใหม่เน้อออ

Thursday, September 27, 2007

ภิกษุสันดานกา



มาว่ากันเรื่องนี้ซะหน่อย กำลังเป็นประเด็นเลย จริงๆที่เขียนเรื่องนี้เพราะเผอิญตัวเองได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนที่คุณตาคุณยายและพระสงฆ์กลุ่มหนึ่งมาประท้วงด้วย

"นานาจิตตังครับ"

เรื่องนี้เป็นเรื่องของมุมมองที่แตกต่างกันของศิลปิน กับคณะผู้เฒ่าที่ยังไม่ได้ทำเลสิก(เลสิก : กระบวนการทำให้สายตากลับมามองได้ชัดเจน โดยไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์)

มีคุณยายท่านหนึ่งถามผมว่า นี่เค้าเรียกงานศิลปะเหรอ ทำไมเอาพระมาล้อเลียนอย่างนี้ ถ้าให้เค้าวาดรูปพ่อแม่ตัวเองบ้างจะทำมั๊ย ผมก็ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็สังเกตการณ์ต่อไป (ตามประสาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับคนแก่อยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะรำคาญหรอกนะ แต่ว่าคุยยาก อธิบายไปถึงยังไงก็ไม่ยอมทำความเข้าใจอยู่ดี)

หันไปมองรอบๆตัว เจอป้ายผ้าเขียนว่า"ศิลเปอะ" (-_-") ,เสียงพระสวดอะไรสักอย่าง , พระใช้กล้องมือถือถ่ายรูป , คุณตายืนดมยาดม , แม่ชียืนหลบแดด , ใครไม่รุ้แต่งตัวยังกะโฆษกมวย มายืนเรียกร้องกันปาวๆๆ เสียงด่า สาปแช่ง จากปากคุณยายชี หลังจากนั้นกลุ่มผู้คร่ำครึในกระพี้ก็เคลื่อนขบวนไปเรียกร้องกันที่ไหนต่อก็ไม่รุ้ ...ช่างเค้าเหอะ

ภาพชิ้นนี้เป็นผลงานของศิลปินชื่อ อนุพงษ์ จันทร ศิษย์เก่าคณะจิตรกรรม ปัจจุบันเป็นอาจารย์ที่ม.ลาดกระบังครับ ตัวศิลปินเองก็บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเจอกระแสต่อต้าน และยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นศาสนาแต่อย่างใด ภาพนี้วาดจากจีวร และพระในภาพมีปากเหมือนอีกา รอยสักตามตัวเป็นรูปสัตว์กำลังผสมพันธุ์กัน (ผมเองก็เคยผ่านตาผลงานของศิลปินท่านนี้มาบ้าง แต่ไม่ใช่ภาพนี้นะ เป็นโปสเตอร์ประกอบงานประกวดศิลปินปีก่อนๆนี่แหละครับ แปะอยู่ที่หน้าหอ เป็นภาพที่ดึงดูดให้ยืนดูได้เป็นชั่วโมงเลยทีเดียว กะว่าพอหมดโครงการจะไปขอมาแปะหน้าห้องตัวเองซะหน่อย ดันมีคนตัดหน้าซะนี่ )

ส่วนตัวอยากให้มองว่าภาพนี้เป็นการสะท้อนภาพของสังคมผู้ห่มผ้าเหลืองในปัจจุบัน มิใช่การล้อเลียนเพื่อความสนุกสนาน อย่างที่ฝรั่งมันเอารูปพระพุทธเจ้ามาสกรีนเป็นลายกกน. มันคนละวัตถุประสงค์ คนละเรื่องกันเลยนะ หากเรามัวมองกระจกที่สะท้อนแต่ภาพลวงที่เรายังเป็นหนุ่มเป็นสาวหน้าใสเปรี๊ยะ เราก็จะไม่มีวันเห็นแผลเน่าเฟะ ไม่มีวันรู้เลยว่าเรามีขี้กลากตรงไหนบ้าง

แล้วคำว่าภิกษุสันดานกานี่ก็มีอยู่แล้วนะครับในพระไตรปิฎก ไม่ได้บัญญัติศัพท์มาเรียกลอยๆ เข้าใจว่าสมัยก่อนก็คงมีบุคคลบางจำพวกที่บวชเข้ามาเป็นกาฝากศาสนา ทำตัวไม่สมกับอยู่ในผ้าเหลืองมิใช่น้อย เลยมีการกล่าวถึงเรื่องนี้ในพระไตรปิฎกด้วย แต่ผู้ชุมนุมท่านกล่าวว่าเรื่องนี้ได้ศึกษามาแล้ว เนื้อความไม่ได้สื่อรุนแรงถึงขนาดที่ภาพของคุณอนุพงษ์สื่อออกมา

"แม่วัวกำลังจะตกลูก ศิลปินเดินผ่านมาวาดภาพลูกวัวนั้นเป็นลูกหมาป่าแทน ถามว่าแม่วัวตัวนั้นจะตกลูกเป็นหมาป่าหรือ?"

แก่นของศาสนาในความคิดของผม คือการเดินทางสายกลาง ปล่อยวาง ไม่ยึดติดไม่ว่าจะเรื่องดีหรือร้าย แต่ว่าที่เห็นในปัจจุบันศาสนามันมีแต่คนคิดถึงเรื่องของเปลือกและกระพี้ (กระพี้ : ส่วนของเนื้อไม้ที่ไม่ใช่แก่น มักใช้เปรียบสิ่งที่ไร้แก่น ไร้สาระ)

เมื่อตะกี๊ไปอ่านข่าวในเว็บต่างๆมามีคอมเม้นท์ทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย อันนี้ก็ต้องไปอ่านกันเอาเองนะครับว่าฝ่ายไหนใช้ปัญญาในการตอบมากกว่ากัน...

เนื่องจากผมอยากเป็นกลางนะครับ เลยไม่อยากเขียนเพิ่ม กลัวว่าจะบ่นอะไรจาบจ้วงล่วงเกินพระสงฆ์แถวพันธุ์ทิพย์ กุฎิติดแอร์ พระเซนซิทีฟที่ฟังเพลงรักแทนบทสวด พระที่ไม่ยอมบอกลาแฟนก่อนจะบวชแล้วดันโทรคุยกันทุกคืน เณรพนันบอล พระที่เก็บตงค์รอวันสึก พระที่หารายได้จากชื่อเสียงด้านวัตถุมงคลและสมณศักดิ์ พระค้ายาบ้า เณรจัดปาร์ตี้...

ที่ว่ามาเนี่ย เนื่องด้วยผมเคยบวชมาระยะเวลาสั้นๆก็พอจะรุ้บ้าง ใครไม่เคยบวชพระสมัยนี้ คงไม่รุ้หรอกนะครับว่าพระในยุคนี้น่ะเป็นยังไง พระที่ดีก็มีนะไม่ได้บอกว่าไม่มี แต่ที่ต้องพูดถึงฝ่ายที่ทำตัวไม่เหมาะ ก็เพราะอยากให้คงเหลือแต่พระที่ดีไง

บางทีสังคมไทยเราน่าจะเลิกถวายปัจจัยที่เป็นเงิน และเครื่องอำนวยความสะดวกที่เวอร์เกิน จะได้มีพระที่ตั้งใจสืบทอดศาสนาจริงๆให้เรากราบไหว้อย่างไม่รุ้สึกตะขิดตะขวงใจ

Monday, September 24, 2007

ABC


ทำไมเวลาพูดถึงtypo ต้องนึกถึงทำfontกันหมดด้วยฟ่ะ อยากทำเรื่องtypographicเว้ยไม่ได้สร้างอยากfont เง้อออ.... แล้วfontกับtypographic มันต่างกันยังไงล่ะ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเหมือนกัน เลยขอยกคำอธิบายส่วนหนึ่งมาจากเว็บของคุณไอ้แอนนนนน


Typeface
รูปลักษณ์ของแบบตัวอักษรแต่ละตัวแต่ละชุด ประกอบด้วย พยัญชนะ สระ ตัวเลข เครื่องหมายวรรคตอน และสัญลักษณ์ต่างๆ ดังนั้นการออกแบบตัวอักษรจึงเรียกว่า Typeface Design
Font
ชุดแบบอักษรที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เพื่อการแสดงผล และสามารถพิมพ์ออกมาได้ทางเครื่องพิมพ์ มีการกำหนดรายละเอียดของความห่างระหว่างตัวอักษร ความห่างของช่องไฟเมื่อจัดเป็นคำหรือรูปประโยค และความห่างระหว่างบรรทัด (Kerning, Leading and Spacing) โดยสรุปคือ Typeface ที่เป็นชุดพร้อมนำไปใช้งาน
Type
ส่วนประกอบของงานออกแบบที่มีการนำ typeface (ในรูปของ Font) ไปใช้
Glyph
รูปร่างหน้าตา (Image) ของตัวอักษรแต่ละตัว ชุดของ Glyph ก็คือ Font
Typographic
มักใช้คู่กับคำว่า Design เป็น Typographic Design คือการออกแบบในเชิง Graphic โดยใช้ Type เป็นหลัก
Typography
ศาสตร์และทฤษฎีว่าด้วยเรื่องการออกแบบและจัดวางตัวอักษร
Lettering
การออกแบบตัวอักษรที่ไม่จำเป็นต้องครบชุด เป็นการเรียงคำหรือประโยคจากแบบอักษรที่มีอยู่แล้วหรือออกแบบขึ้นใหม่เพื่อความสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของงานเป็นชิ้นๆไป เช่น การออกแบบเครื่องหมายการค้าต่างๆ


เห้อออ...อยากทำเว็บที่มันนำเสนอเรื่องที่ใช้typoกับศิลปะแขนงต่างๆอ่ะ ก็รุ้นะว่าถ้าทำมันก็มีแต่content ไม่ได้มีโปรแกรมมิ่งห่าเหวอะไรมากมาย แล้วก็ยังนึก gimmick อะไรไม่ออกเลย ที่บ่นมาจะมีใครเข้าใจกุบ้างมั๊ยเนี่ยว่ากุพล่ามอะไร .....เปลี่ยนหัวข้อซะก็หมดเรื่อง!!!

ปล.ภาพข้างบนน่ะมองเป็นศิลปะนะครับ อย่าทะลึ่ง
ปล2.อัพเดตนิดนึง ปรึกษาอาจารย์มาแล้ว ทำต่อดีกว่า เพิ่มapplicationให้มันเป็นgimmickของเว็บซะหน่อย ทำได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน
***เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดอิหยังก็ให้มันถึงที่สุด***

Thursday, September 20, 2007

search people profile in social network

โดนว่าไร้สาระมาเยอะ คราวนี้ก็ล่อกันแต่สาระเลยละกัน (สาระเลวหรือป่าวหว่า)
เห้อ... เดี๋ยวนี้อะไรๆก็social network แล้วคนที่เรารุ้จัก(หรืออยากรุ้จัก)มันมีprofileอะไรในบรรดาเว็บพวกนั้น ให้เราไปแหล่มได้บ้างหว่า จะถามเค้าก็จะหาว่าเสล่ออีก เอางี้ละกันถ้าลองมีเมลเค้าแล้วละก็กรอกมันลงไปซะ ---> http://com.lullar.com/
เว็บนี้ก็เป็นเว็บพวก search people profile ที่มีเว็บพวกsocial networkหลายยี่ห้อให้หากันอยู่พอควร คิดว่าคงไม่มีใครเล่นดะครบทุกเจ้าหรอกมั้ง


ขอแค่รุ้เมลเท่านั้นล่ะน่า ก็จะรุ้ขนาด,ส่วนสูง,วันเกิด ยังกะพวกสายลับจับบ้านเล็ก (เอ๊ะ!!หรือพวกโรคจิต)
แอบแหล่มกันหนุกแน่ จะไปดูดรุปในhi5 ดูประวัติในspaces live อ่านคอมเม้นท์ในmyspace หรือในอะไรที่มันมีก็เถอะ เอ้า..จะรีรออะไรกันอยู่ เริ่มภารกิจเลย..

Tuesday, September 11, 2007

favicon ไอคอนบนช่องกรอกurl อ่ะ

วันนี้จะมาแบ่งปันสาระความรู้เล็กๆน้อยๆนะ การทำไอคอนที่เราเห็นเว็บต่างๆเค้าแทรกกันตรงที่ใส่urlน่ะ



วิธีทำ หารูปที่ต้องการทำมาย่อในpsให้ได้ขนาด ซึ่งตัวไฟล์ จะมีขนาด 16x16 px เป็น .ico
ได้รูปแล้วเราก็แทรกคำสั่ง link rel="shortcut icon" href="favicon.ico"นี้ในhead แล้ว ก็ upload ไอคอนของเรา ในที่นี้เราตั้งชื่อว่าfavicon.ico งืมม..อ่านไปอ่านมาตั้งนานยังงงอยู่ดี
แต่เดี๋ยวก่อนซาร่า.. จอร์จมีอะไรจะบอก ถ้าคุณต้องการมีไอคอนที่ทำง่ายๆภายใน2นาที เรามีทางเลือกที่คุณแทบไม่ต้องทำอะไรมากมาย เรียกว่าง่อยแดกกันเลยทีเดียว ...let's go...


ขั้นตอนง่ายมาก browseรุปที่ต้องการ(ใหญ่เท่าบ้านก็ใส่มาเถอะ เสร็จแล้วมันจะเหลืออันเท่ามด) แล้วกดปุ่มgenerate ดาวน์โหลดโฟลเดอร์ไอคอน ใส่แท็กคำสั่ง(ดูreadmeในโฟลเดอร์ที่โหลดมาน่ะแหละ) ตอนอัพโหลดไฟล์ก็อัพมันขึ้นไปทั้งโฟลเดอร์น่ะแหละนะ .....เอ่อ นี่กุพยามอธิบายเรื่องง่ายให้เข้าใจยากขึ้นรึเปล่าว่ะ

Sunday, September 9, 2007

ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ

นั่งคนเดียวแล้วมองกระจก ที่สะท้องแสงจันทร์วันเพ็ญโดดเดี่ยวกับความเหงา อยู่กับเงาที่พูดไม่เป็นฟังเพลงเดิมๆที่เรารู้จัก แต่ไม่รู้ความหมายของมันหากฉันจะหลับตาลงสักครั้ง เพื่อพบกับเธอผู้เป็นนิรันดร์

หากความรักเกิดในความฝัน เราจุมพิตโดยไม่รู้จักกันปฏิทินไม่บอกคืนและวัน ดั่งที่ฉันไม่เคยต้องการแต่อยากให้เธอได้พบกับฉัน เราสมรสโดยไม่มองหน้ากันจูบเพื่อร่ำลาในความสัมพันธ์ ก่อนที่ฉันจะปล่อยเธอหายไปโดยไม่รู้จักเธอ

ทบทวนเรื่องราวต่างๆ ทุกๆครั้งที่ฉันตื่นนอนบทกวีไม่มีความหมาย ฉันงมงายสวดมนต์ขอพรหากจะมีโอกาสสักหน จะร่ายมนต์กับสายน้ำจันทน์เพื่อจะได้หลับตาลงสักครั้ง แล้วพบกับเธอผู้เป็นนิรันดร์

Sunday, September 2, 2007

wanyen vs ratch-rian

wanyen fc
ratch-rian fc

jump kick

low energy

after kick-off

Saturday, August 25, 2007

freshy again

งานนี้เหล่าหวานเย็นไปก่อนเริ่มงาน freshy night วันนึง ไปถึงมหาลัยเพื่อนๆก็ส่งงานจารย์พี เตะบอล(กุทำเข้าประตูตัวเองด้วยอ่ะ -_-") ตอนค่ำก็พาไอ้น้องตองไปเลี้ยงข้าวหลังมอ ดึกๆหน่อยก็ไปสังสรรค์กันที่ชะอำกับพวกราชเรี่ยน ตื่นมาปวดหัวเลย (น่าจะนอนตกหมอนมากกว่าแฮงค์) กลับมาถึงมอก็เยี่ยมเยียนพี่เจน พี่จำรัส แล้วก็แวะไปแอบงีบซะหน่อย
และแล้ววันนี้ก็มาถึง ตื่นมาเตะบอลแข่งกับราชเรี่ยน มาดูแผนการเล่นกัน
..........อู๊ด หมี............

......เชาว์ ปู จื๊ด กร.......

........กู นัทตี้ ปิง..........

.............ต๋อง................

เล่นครึ่งละ30นาที กุเล่นได้15นาทีก็แทบอ้วก ขาสั่นหน้ามืด ตาลายคล้ายจะเป็นลม เลยถอดรองเท้าให้เจเจลงเล่นแทน ไปๆมาๆมันเลยไม่ใช่หวานเย็นกับราชเรี่ยนแล้วเพราะคนเริ่มมาแจมกันเยอะ
จนเอ๋ตะโกนว่าหมดเวลาแล้ว (หมดแล้วจริงๆ นานแล้วด้วย) แต่ทันใดนั้นไอ้อ๊อดคับยิงเข้าไปซะงั้น มันดีใจกันใหญ่เลย เอาเข้าไป ไม่ว่ากัน แพ้เป็นพระชนะเป็นเจ้าอาวาส เซ็งว่ะ...

อาบน้ำแต่งตัว นัดน้อง หลาน เหลนรหัสไปเลี้ยงข้าวหลังมอ ฝนตกซะงั้น (อืมมม ตกลงวันนี้มันจะไม่มีไรดีเลยเหรอว่ะเนี่ย) 2ทุ่มพาไอ้น้องตองเข้างานไปด้วย แล้วก็ปล่อยมันไปอยู่กับเพื่อนมัน นัดสายรหัสมาถ่ายรูป แจกอั่งเปาคนละร้อย เรียกน้องฮับมาถ่ายรูป ดันรุ้อีกว่าแจกอั่งเปาสายรหัส จ่ายไปอีก100(เบ็ดเสร็จ จ่ายไป400 น้องๆคงไม่รุ้หรอกว่าพี่ต้องกินมาม่าทั้งเดือน 55+ ล้อเล่น..)

ฟังดนตรี ดูน้องๆ กินยาดอง 2แก้วเท่านั้น ร้อนรุ่มชุ่มกายมากๆ วงไอ้บ๊อบเล่นคัฟเวอร์ retrospect ทนไม่ไหวต้องเล่นกันซะหน่อย แท็กกันยังกะ nfl (หรือไก่ชน?) มันส์ส์ส์มากก สติเสติงไม่ค่อยมีแล้ว เล่นกันจนเพื่อนอ๊อดคิ้วแตก เย็บ3เข็ม( san paolo 3,000 b. ) กรรมตามทันเลยเห็นมั๊ย อ๊วกแตกอีก หน้างี้ซีดเลย
แต่แข็งใจเต้นเพื่อเพื่อน หวานเย็นขึ้นเวทีทั้งที เนอะๆ

กลับรถมหาลัยตี1กว่าๆ มาถึงตอนตี4ครึ่ง หลับ ตื่นมาเขียนบล็อก(หลายวงเล็บโคด) แล้วจะกลับไปนอนที่หอต่อ...ราตรีสวัสดิ์

Monday, August 20, 2007

I'm 1def8l

"1def8l"
"ฟัก"
ง่วงว้อยยยย ว่างๆคอมตัวเองพัง เห็นคอมกับแท็บเล็ทปิงวางไว้ เลยเอามาเผาเล่น ง่ะ...ตื่นเย็นๆแน่เลยกุ

Sunday, August 19, 2007

thesis

คิดๆๆ หาๆๆๆ ข้อมูลทำthesisกันดิคร้าบบบบ

ฮ่วยยยย ทำไรดีอ่ะ ใกล้จะส่งหัวข้อแล้ว คอมก็พัง

ช่วยคิดหน่อยดิพี่น้อง ทำเว็บอะไรดี

สาขาออกแบบของเว็บนะ คร่าวๆ ควรจะมีprograming กับ design เท่าๆกัน แต่ให้มันเด่นไปสักทาง

1. multimedia

2. graphic&interactive

3. web programing & graphic programing

4.database

5.reference

Saturday, August 11, 2007

i love capuchino

วันนี้ฟอร์แมทเครื่องใหม่ การ์ดจอพัง เซ็งเชี่ยๆ
ตะกี้เลยสั่งคาปูชิโน่เย็นๆมากิน รู้สึกดีมากกกก แม่งงงงง...หายเซ็งเป็นปลิดทิ้ง
สุดยอดจริงๆคาเฟอีน
เมื่อวานก็วันเกิดไอ้ปิง ลืมเลย.. เจ้าตัวแม่งก็หายไปเลยเว้ย
ช่วงนี้บล็อกกูไร้สาระหน่อยนะ
รอกุมีกะจิตกะใจทำงานก่อน แล้วจะมาเพิ่มสาระในบล็อก

ปล.พรุ่งนี้วันแม่แล้ว รักแม่มากที่สุดในโลกเลยนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะโทรไปบอกรักนะ จุ๊บๆ

Tuesday, August 7, 2007

วันนี้กุจะเตะบอล

จะเตะบอลที่การไฟฟ้า แต่ก็ไม่ได้เตะ เพื่อนติดหญิง ฝนก็ตกอีก

อุบ่ะ.. งั้นเปลี่ยนเป็นกินเหล้าเคล้าสายฝนแทนละกัน

up level เว้ย ...อ้วกก็อ้วกว่ะ

Sunday, August 5, 2007

after shock

หลังจากผ่านการสอบกลางภาคอันแสนหฤโหด เราก็ได้ผลสรุปแล้วว่า ข้อสอบคราวนี้มันเน้นนนนนทุกบรรทัดจริงๆ เอาเป็นว่าเทอมนี้เอาแค่พอผ่านก็พอนะ



ปล.ใครยังไม่จ่ายค่าเทอมก็รีบทำเรื่องลงทะเบียนใหม่ด้วยเน้อ เดี๋ยวจะไม่มีที่นั่งสอบปลายภาค

Monday, July 30, 2007

wanyen the simpsons


credit : takorn @ wanyen
ดูกันเอาเองละกันว่าใครเป็นใคร 555+

Sunday, July 29, 2007

สิปปัญจะ

มงคลชีวิตที่8( เชี่ยวชาญในด้านศิลปะ )

ศิลปะ แปลว่า ฉลาดทำนั่นเอง พหูสูตนั้นเป็นผู้ฉลาดรู้ เรียนรู้ในหลักวิชา รู้ว่าอะไรเป็นอะไร รู้ว่าอะไรทำอย่างไร ส่วนศิลปะเป็นความสามารถในทางปฏิบัติ คือสามารถนำความรู้นั้นมาใช้ให้บังเกิดผลคุณสมบัติของผู้มีศิลปะ
1. ต้องมีศรัทธา - มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่จะทำว่าเป็นสิ่งดี มีประโยชน์ มีใจรักที่จะทำ มีความตั้งใจมั่นว่าเป็นสิ่งดี และจะทำให้เสร็จ
2. ต้องไม่เป็นคนขี้โรค - รู้ จักระวังสุขภาพตนเอง
3. ต้องไม่เป็นคนขี้โม้โอ้อวดคน- โอ้อวดไม่มีใครอยากสอน ไม่มีใครอยากแนะนำ คนพวกนี้มัวแต่คุย มัวแต่อวดจนไม่มีเวลาฝึกฝีมือตนเอง ทำเลยดีกว่า
4. ต้องไม่เป็นคนขี้เกียจ- มีความมานะพากเพียร อดทน
5. ต้องเป็นคนมีปัญญา- รู้จักพินิจพิจารณาช่างสังเกต


อานิสงส์ของการมีศิลปะ
1. ทำให้คนเป็นคน
2.ทำคนให้ดีกว่าคน
3. ทำคนให้เด่นกว่าคน
4. ทำคนให้เลิศกว่าคน
5. ทำคนให้ประเสริฐกว่าคน
6. ทำคนให้สูงกว่าคน
7. ทำคนให้เลี้ยงตัวได้
8. ทำคนให้ฉลาด
9. ทำคนให้มั่งคั่งสมบรูณ์
10. ทำคนให้ได้รับความสุขทั้งโลกนี้โลกหน้า
11. ทำให้โลกเจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจ


วิธีฝึกตนให้มีศิลปะ
1. ฝึกตนให้เป็นคนช่างสังเกต รู้จักหาจุดเด่นของสิ่งรอบตัว
2. ตั้งใจทำงานทุกอย่างได้มาให้ดีที่สุด อย่าดูถูกงาน อย่าเกี่ยงงาน
3. ทำงานด้วยความประณีต ละเอียดลออ
4. ตั้งใจปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเสมอ ไม่ทำอะไรชุ่ย ขอไปที
5. หมั่นใกล้ชิดกับผู้มีศิลปะอย่างแท้จริงในสายงานนั้นนั้น
6. ฝึกสมาธิอยู่เสมอ เพื่อให้ใจสงบผ่องใส เกิดปัญญาที่จะฝึกและปรับปรุงตัวเอง ให้มีคุณสมบัติของผู้มีศิลปะได้

mid term

โอ้พระเจ้า...
กุเริ่มจะเครียดแล้วนะเนี่ย
.
.
.
อ่านกันได้แล้วสาดดดด

hello world

h
e
l
l
o


w
o
r
l
d
!