Thursday, January 29, 2009

เผางานรวมพอร์ต

ช่วงนี้อัพบล็อกเดือนละครั้ง อันนี้เป็นงานวาดในtablet ทำเพิ่มไปในพอร์ตโฟลิโออีกสามรูป


อ.ศิลป์ พีระศรี
"tomorrow too late"


clint eastwood
หน้าเหี่ยวๆ

ดอก
ฝึกเพ้นท์แบบสีๆ
สองวัน สามภาพ ไม่ได้คิดว่าจะเพ้นท์รูปอะไร แบบว่าจะรีบวาดให้ได้หลายๆอัน
เจอภาพไหนก็เอาเป็นแบบวาดเลย เตรียมมากหามากเดี๋ยวก็ขี้เกียจซะก่อน ยิ่งเป็นคนเเบบนี้อยู่

Thursday, December 25, 2008

ใขเหญ่า เขาใหญ่

เดือนนี้มีเรื่องให้เขียนบล็อกจนได้ เย้ๆ -_-"
สมัยนี้การไปเที่ยวตากอากาศหนาวกำลังเป็นกระแสมหานิยม ไอ้ครั้นจะไปปายก็คิดว่าเจียมกระเป๋าตังค์ที่มันแบนๆไว้บ้าง แต่โชคชะตายังอุตส่าห์ให้เราได้อินเทรนด์กับคนอื่นเค้า

เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน คุณแพร(ลูกพี่ลูกน้อง)ชวนไปเที่ยวเขาใหญ่ ลำตะคลอง ทริป 2 วัน 1 คืน
ทีแรกก็ว่าจะไม่ไป ..ก็คนมันจน แต่โดนสะกิดปมชีวิต "แกคิดดูเอาละกัน แกมันหมดวัยที่จะได้เที่ยวป่ากางเต้นท์อารมณ์แบบนักศึกษาออกค่ายแล้วนะโว้ย" ฟังแล้วจี๊ดมาก มาช่วยหารค่ารถ 500-700 เอง
งืม..โอเค ไปก็ไปว่ะ

เริ่มต้นเดินทางจากศิลปากร สนามจันทร์ ร่วมกับคณะคุณครู(แพรเรียนศึกษาศาสตร์ ศิลปากร ปี5)
เหมารถตู้ตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เที่ยงๆก็หยุดถ่ายรูปที่ทุ่งทานตะวัน เนื่องจากทริปนี้สมาชิกงบน้อยหอยสังข์กันถ้วนหน้าเลยแวะข้าวแกงข้างทาง พอบ่ายก็ซื้อของเตรียมปิ้งย่างจากโลตัสเขาใหญ่

เย็นย่ำค่ำมืดก็แต่งองค์ทรงเครื่อง เสื้อ3ชั้น กางเกงยีนส์ ถุงเท้าเตะบอล ถุงมือตัดอ้อย 55+ ได้หมวกไหมพรมมากันน้ำค้างอีกแน่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่อุปการะคุณสละให้คนชิ้นสองชิ้น กลางคืนที่นี่หนาวสมกับที่แต่งตัวรอจริงๆ พ่นควันออกจากปากได้เหมือนสูบบุหรี่เลย พ่นไปพ่นมาก็สนุกดีนะ -__-"
มีกวางมาป้วนเปี้ยนแถวเต้นท์ด้วย เดินทอดน่องยังกะเป็นนักท่องเที่ยว เดี๋ยวบ๊ะจับทำกวางรมควันซะนี่

กิจกรรมก็ชิวกันไปตามประสา กินเหล้าเป่าปี่รอบเตาย่างไปเรื่อย คุยกันเบาๆพยามไม่รบกวนกลุ่มอื่นนัก ตีหนึ่งกว่าๆก็เข้าเต้นท์นอน หนาวปวดกระดูกแบบนี้จะหลับลงได้ไงฟ่ะ แต่ก็นะเพื่อสุขภาพ ตื่นมาตีห้าดูพระอาทิตย์ ตอนเที่ยงแวะซื้อหนม ซื้อนมอัดเม็ดฟาร์มโชคชัย ประมาณว่ากุได้มาที่นี่แล้วนะเว้ย เหอะๆ ไม่ได้เข้าไปเที่ยวข้างในฟาร์ม เพราะไม่มีตังค์เสียค่าเข้า(อันนี้ใครๆก็รู้อยู่ ไม่ต้องย้ำ) จากนั้นก็หลับตลอดทาง

จบแล้ว ดูเหมือนไปน้อย แต่เที่ยวแบบพอเพียงก็งี้แหละ
เค้าไปเอาบรรยากาศการนอนเต้นท์ตากลมหนาวกลางป่ากลางเขาตะหากล่ะเว้ยเฮ้ย

ปล.หนาว hereๆ สำหรับคนไม่ชินอากาศหนาวอย่างเรานะ

Thursday, November 20, 2008

วันจันทร์คือเมื่อวาน

วันจันทร์
ผันผ่าน
ลับแล้ว

monday มันส์เดะ

ตกรอบแว้ววววว งานประกวด monday school
ไม่เป็นไรประกวดงานแรกเอง สู้ต่อไปทาเคชิ...

อีกไม่นาน คงมีวันของเราบ้าง...

แต่ว่าแทบไม่เหลือเวลาให้ประกวดแล้วสิ 55+
เสือกแก่ซะงั้น ..อดเลย

Tuesday, November 18, 2008

13-10


ได้โอกาสกลับมานอนกลิ้งในเมืองกรุง เลยแว่บไปเตะบอลกับเพื่อนๆ
กะว่าเล่นสองชั่วโมงเองชิวๆ แต่ไปๆมาๆทำเอาเดินขาลากไปสองสามวัน-__-"
ถ่อไปเตะกันที่soccer pro แถวๆลาดพร้าว87 เป็นสนามหญ้าเทียมที่บรรยากาศดีมาก
ไม่ได้ใส่สตั๊ดก็เลยไถลพื้นเล่นไปตั้งหลายรอบ แต่ไม่เจ็บเหมือนสนามหญ้าจริง(ในเมืองไทยน่าจะเรียกว่าสนามดินมากกว่า)
วิ่งขึ้นๆลงๆ เล่นหลังบ้าง หน้าบ้าง เล่นนานๆเริ่มไม่มีแรงวิ่งยืนกางมุ้งรอยิงอย่างเดียว ถึงจะใช้โอกาสเปลืองแต่ก็ยิงไป 4 เม็ด หุหุ
รอบนี้เพื่อนๆมากันไม่เยอะเลยได้เตะกันแค่13คน แต่ก็ดีได้เล่นเต็มๆไม่ต้องต่อทีม เอาให้ตะคริวกินกันไปข้างนึง
ค่าบริการก็ไม่แพงมาก แต่ทำไมตอนหารกันตังค์มันขาดว่ะ แบ่งกันข้างละ6-7 จนเตะไปเตะมาสกอร์มันเริ่มห่างขึ้นเรื่อยๆ
ฝั่งนู้นคงกลัวเราแพ้แบบน่าเกลียดเกิน เลยย้ายฝั่งมาช่วยคนนึง เหอะๆ
ยิงกันเรื่อยๆ 13-10 สกอร์บอร์ดจุแต้มไม่พอกันเลยทีเดียว

ไหนๆก็เขียนบล็อกถึงที่นี่ ลองประเมินเทียบกับที่อื่นที่เคยไปเล่น เผื่อใครอยากมาเตะ (นี่ไม่ได้ค่าโฆษณานะจ๊ะ)

soccer pro ลาดพร้าว 87
  • ความสะดวก * * * * *
  • บริการ * * * * *
  • บรรยากาศ * * * * *
  • ความคุ้ม * * * *
สนามหญ้าเทียม ใกล้ถนนใหญ่ ราคาทั่วไป อุปกรณ์ครบ บรรยากาศดี
ไหนๆก็ไม่ได้โฆษณาให้ ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มก็เสิร์ชชื่อสนามหาข้อมูลในกูเกิ้ลเอาเอง 55+

ปล. ต๋อง(ผู้ดำรงตำแหน่งว่าที่หัวหน้าโปรแกรมเมอร์แห่งบริษัทเว็บไซต์ชื่อดังระดับประเทศ)
ได้กล่าวหลังแมตซ์นี้ว่า "กุรอพวกเมิงตั้งนาน ไม่เห็นมีใครโทรตาม กุเลยไม่ได้ไป"

วู้วววว

รอบนี้คนน้อย เลยเตะกันที่สนามเล็ก

เบอร์22 นิวกาก้า แห่งอินเตอร์มิลาน 55+

หลุดมาจากไซต์งานที่ไหนเนี่ย

บรรยากาศข้างสนาม

จบเกมส์ไหงกลายเป็นเสื้อยูเว่
ปล.ไม่อยากถ่ายคู่ไอ้หล่อนี่เลย ให้ตายเถอะ

ชิวๆ

นั่งหารตังค์

Thursday, October 30, 2008

the girl from ipanema

ชายหาดอิปานีมาที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียงมาก นอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของพระอาทิตย์ตกที่งดงาม อิปานีมายังเป็นสถานที่ในบทเพลง Garota de Ipanema เพลงบอสซาโนวาที่มีชื่อเสียงมากมาตั้งแต่ยุค 60's เพลงนี้ในภาคภาษาอังกฤษรู้จักกันในชื่อ the girl from ipanema
ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจจากสาวน้อยที่เดินผ่าน ณ ชายหาดอิปานีมา และสาวน้อยคนนี้ก็มีตัวตนอยู่จริงๆด้วยนะ

เพลงนี้ดังแค่ไหน เอาเป็นว่าทุกวันนี้มีไม่ต่ำกว่าห้าสิบเวอร์ชั่นทั้งในภาษาละตินและภาษาอังกฤษ บางครั้งถ้าผู้หญิงร้องเพลงนี้ก็กลายเป็น the boy from ipanema เนื่องจากว่าเพลงดังมากและมีคนนำมาร้องใหม่เยอะ เลยทำให้เพลงนี้มีหลายแนวเพลงไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแนว pop, r&b, techno หรือแม้กระทั่ง reggae ลองค้นหาดูละกันว่าเวอร์ชั่นไหนที่ถูกใจคุณ


"The girl from impanema"
Writers : jobim/gimbel/demoraes


Tall and tan and young and lovely
The girl from ipanema goes walking
And when she passes, each one she passes goes - ah

When she walks, shes like a samba
That swings so cool and sways so gentle
That when she passes, each one she passes goes - ooh

(ooh) but I watch her so sadly
How can I tell her I love her
Yes I would give my heart gladly
But each day, when she walks to the sea
She looks straight ahead, not at me

Tall, (and) tan, (and) young, (and) lovely
The girl from ipanema goes walking
And when she passes, I smile - but she doesnt see (doesnt see)
(she just doesnt see, she never sees me,...)

Wednesday, October 1, 2008

สี่ปีผ่านไป อะไรเปลี่ยนบ้าง

จบม.ปลาย ผมก็โดนตัดหางปล่อยวัดแถวๆชะอำประมาณ3ปี
อยู่จนหางใหม่เริ่มงอกก็โดนตัดไปอยู่กทม.อีกปีกว่าๆ ระยะเวลาขนาดนี้มันมีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง
เมื่อสี่ปีก่อนผมจบม.ปลายด้วยสถานะตั้งใจโสด ปัจจุบันผมอยู่ในสถานะจำใจโสด ก็ถือว่าเหมือนเดิม หึหึ
แต่อันนี้ไม่ใช่ประเด็น แค่อยากจะระบาย 55+

ประเด็น คือ "บ้าน"
ไม่น่าเชื่อว่าในรอบสี่ปีที่ผ่านมา ผมนอนค้างคืนที่บ้านรวมกันได้เดือนกว่าๆเองมั้ง
นอนหอเพื่อนบ้าง บวชบ้าง เรียนซัมเมอร์บ้าง ออกค่ายบ้าง ฝึกงานบ้าง อะไรบ้าง
กลับมาบ้านหลังเรียนจบใหม่ๆ รู้สึกว่าจะยังปรับตัวกับบ้านตัวเองไม่ค่อยจะได้ ตำแหน่งสวิตซ์ไฟ ทางเดิน อุปกรณ์ไฟฟ้า แม้กระทั่งที่นอนตัวเองก็เปลี่ยนไป หลังๆเลยชอบนอนหลับคาโซฟาหน้าทีวี

อ้อ..สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปก็คืออากาศตอนเช้าที่นี่ยังหนาวจนขี้เกียจอาบน้ำเหมือนเดิม
เกิดวันไหนอารมณ์เปลี่ยวจะลองส่ง sms ออกรายการทีวีว่า..นครหนาวมาก




ปล.วันก่อนวิ่งออกกำลังตอนเช้า จู่ๆคุณตาคนนึงที่เดินสวนมาก็ยื่นถุงขนมครกในมือ แล้วบอกว่าลองชิมดูสิ ไอ้เราก็งงว่าใครหว่า นึกไม่ออกเลยยิ้ม ไหว้ขอบคุณแล้วก็หยิบกิน ^^"
ปกติก็ไม่ค่อยรู้จักใครแถวบ้าน ปล่อยให้พ่อแม่รู้จักไป กุยกมือไหว้อย่างเดียว

Tuesday, September 9, 2008

the mist(ake)


เมื่อวันก่อนตอนนั่งรถทัวร์กลับบ้าน กำลังจะหลับอยู่แล้วววว แม่งดันเปิดหนังให้ดู THE MIST
โอ้วววว หนังสัตว์ประหลาดเกรดบีแหงๆ เป็นหนังที่ไม่เคยคิดว่าจะดูเล้ยยย แต่กูนอนไม่หลับแล้วนี่นะ ดูๆไปหน่อยเหอะ ว่ามันจะเป็นหนังเห่ยอย่างที่คิดมั๊ย
คำเตือน::ถึงบรรทัดนี้ใครยังไม่ดู ไม่ควรอ่านนะ ควรจะไปดูซะก่อน
ก็ดูอยู่ตั้งนานมันก็ไม่ต่างไรกับหนังเกรดบีเลยนี่หว่า แอคชั่นก็ไม่มี สัตว์ประหลาดก็ไม่โผล่ ตกลงมันหนังอะไรว่ะเนี่ย รึมันจะเจอตัวแม่ตอนใกล้จบ ก็ดูมาเรื่อยๆถึงตอนจบ โอ้ววว เจ็บปวด รวดร้าว บาดลึกถึงทรวงใน แต่ว่าจริงๆน่าจะเจ็บกว่านี้ได้อีก หาข้อมูลเพิ่มเติมในเน็ต เนื้อเรื่องแต่งโดย stephen king แต่ว่าบทภาพยนตร์และกำกับโดย frank darabont (กำกับ shawshank และอื่นๆ)
ชอบอ่ะ จบแบบกระแทกได้ในระดับนึง แต่ว่าจริงๆมันน่าจะกดดันให้มากกว่านี้ตอนก่อนจะยิงปืนอ่ะนะ มันยังกดดันน้อยไปอ่ะ อยากให้มันแบบอัดอั้น อึดอัด ถ้าได้กว่านี้จะดีมากเลย หนังเรื่องนี้ถ้าคนที่หวังจะมาดูอะไรมันๆตื่นเต้นวิ่งหนีเอเลี่ยนก็คงผิดหวัง เพราะเรื่องนี้มันทำได้เบๆพื้นๆมาก แต่มันมีตอนจบที่เชิดหน้าชูตา ต่อจากนี้มาทวนตอนจบของหนังกันดีกว่า
เริ่มจากตัวเอกที่หนีจากฝูงชนในซูเปอร์มาร์เก็ต(สะใจจจจอีป้าปากมากตายมากกกก รู้สึกจิตใต้สำนึกกุจะโหดร้ายไปหน่อย) รอดเหลือกันห้าคนขี่รถหนีเอเลี่ยน ฝ่าหมอกหนาทึบ ขับไปบ้านพระเอก ปรากฎว่าเมียตายแว้ว เลยขับรถตรงไปเรื่อยๆจนน้ำมันหมด หมอกบ้านี่ก็ท่าทางจะอยู่ยาวจนจบเรื่องซะล่ะมั้ง อ้าว.. แล้วจะทำไงดีว่ะ เป็นกูก็ไม่รุ้จะทำไง อยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตก็น่าเบื่อ ในนั้นคนก็จิตหลุดกันหมด ว่าแล้วก็หยิบปืนมานับลูกปืน "กระสุนมีอยู่4นัด " น้องนางคนงามก็เอ่ยมาว่า "แต่..เรามีกัน5คน"
ชอบบทสนทนานี้จัง ก็ถ้ามันมี5นัดมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอ่ะดิ จบเรื่องสบายไป ว่าไม่ทันขาดคำ ปัง ปัง ปัง ปัง ก๊อกๆๆ ยิงไม่ออก ห่ามาสิเว้ยยยย มาฆ่ากูมาเลย บรืนนนน ทหารแม่งเสือกโผล่มา สัตว์ประหลาดโดนกำจัด หมอกหาย ปลอดภัย ชาวโลก happy ending แต่พระเอกแทบบ้าตาย พลาดไปนาทีเดียวเอง
มาฟังผมวิเคราะห์กันหน่อย แตกมาได้หลายอย่างเลย
การใช้สัญลักษณ์ในหนัง อะไรบ้าง เท่าที่เห็น หมอกและเอเลี่ยนในนั้น แทนความกลัวที่มองไม่เห็น
เลือนลาง กดดัน อึดอัด ไม่เห็นทางออก
เรื่องนี้เล่นพระเจ้าเยอะมาก กับวิทยาศาสตร์และสิ่งที่มนุษย์กระทำ ว่าคนกลุ่มหนึ่งมีอำนาจและสิทธิ์อะไรที่จะกุมอนาคตของโลกไว้เอง อันนี้แอบนึกถึงรัฐบาลสหรัฐ
มนุษย์สัตว์ประเสริฐเมื่อสิ้นหวังอับจนหนทาง ก็แสดงสันดานดิบ ลึกๆของคนคือความบ้าหรือความดี
คนที่จนตรอกด้วยความกลัวสามารถทำได้ทุกอย่างแม้จะต้องฆ่ากันเองเพื่อให้ตนเองมีความหวังว่าจะอยู่รอด
และหนังก็สอนเราให้รู้จักที่จะมีความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้จะแค่1วินาทีก็มีค่า ตราบใดที่คุณหมดหวังเมื่อไร เมื่อนั้นคุณก็หมดทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ สิ่งที่จะชนะความกลัวก็คือความหวังนี่แหละ
ในโลกความจริงไม่มีใครเป็นฮีโร่ได้ตลอด ถึงแม้พระเอกจะดูเป็นผู้นำมากก็ตาม แต่เขาก็พาคนไปตายจนตัวเองรู้สึกผิดมากมาย สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจผิดพลาดที่ลั่นไกยิงทุกคนในรถ แถมตัดสินใจแทนลูกอีกว่าจะอยู่หรือตาย เหมือนกับที่มีข่าวฆ่ายกครัวน่ะแหละ
กระแทกใจดีเหลือเกินกับสิ่งผิดพลาดในความเป็นคน จัดการเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก the mist เป็น the mistakeซะเลย

Wednesday, September 3, 2008

OMG = Oh My Google.



ชอบเหลือเกินกับทดลองใช้ของฟรีจากกูเกิ้ล...มีอะไรที่พี่แกยังไม่ทำมาให้ใช้บ้างเนี่ย หลังจากรอโหลดตั้งนาน วันนี้เพิ่งได้ฤกษ์ลองโหลด google chrome beta มาเล่นดู หน้าตาก็แปลกๆดี เหมือนในการ์ตูนเลย google chromeเป็นweb browser ที่พัฒนาด้วยopen source มันดีตรงที่พยามนำเอาความสามารถอันโดดเด่นของที่ต่างๆมารวมกัน พี่แกบอกว่าใช้ webkits รุ้สึกจะเป็นengineเดียวกับที่สร้างsafari

gc(google chrome ขี้เกียจพิมพ์น่ะ)มีระบบแท็บสำหรับคนที่ชอบการเปิดแท็บเยอะๆคงถูกใจ แล้วก็ในหน้าแรกมีที่โชว์หน้าย่อยๆเหมือนของopera แต่ว่าถ้าใช้หมาย่างก็โหลดextension มาใช้ได้เหมือนกันนี่หว่า แต่แท็บลากเลื่อนได้ ลากเป็นหน้าต่างใหม่ไปเลยก็ได้ การใช้งานก็ไม่ยากตามสไตล์กูเกิ้ล แต่ไอ้address box ที่มันรวมทุกอย่างไว้ในนั้น มันยังรุ้สึกหงิดๆลูกตาอยู่ อาจเป็นเพราะไม่คุ้นเคยมั้ง ในคู่มือกูเกิ้ลบอกว่าgcโหลดเร็วมากจนคุณอาจจะไม่ทันกดปุ่มstop แต่การใช้งานจริงก็กดทันนะ 55+ รู้สึกว่ามีปัญหากับการแสดงตัวอักษรอยู่บ้างสงสัยอาจจะยังไม่ชิน แต่เห็นเค้าบอกว่ามันตัดคำภาษาไทยได้ดีนะ อ้อ..เค้าว่าแต่ละtabนี่แยกการprocessนะ มันจะทำให้เร็วและเสถียรกว่า แต่ส่วนตัวการเเสดงภาพยังช้าบ้างอะไรบ้าง(เฉพาะตอนเปิดแรกๆ สงสัยมันจะเป็นม้าตีนปลาย) บางเว็บรูปแบ็คกราวน์ไม่แสดง อันนี้เปิดเทียบกับbrowserตัวอื่นแล้ว มีระบบไม่ระบุตัวตนสำหรับแอบโหลดหนังโป๊ด้วย555 ตอนใช้ไม่ระบุตัวตนจะเปลี่ยนหน้าตาไปนิดหน่อยเป็นแบบสปาย ลองดูๆ

งืมม..ก็มันยังbetaนี่นะ ตัวเต็มมันก็คงไม่ฉีกไปจากนี้เท่าไหร่ แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ตอนที่พล่ามในบล็อกอยู่นี้ก็ใช้ie 555+

ปล.อันนี้พูดกันในฐานะผู้ใช้ทั่วไปที่เพิ่งใช้วันแรก วิเคราะห์ลึกและให้รายละเอียดกว่านี้ไม่ได้แล้ว เดี๋ยวเซลล์สมองจะเหี่ยว เขายิ่งทู่ๆอยู่

Wednesday, August 20, 2008

วันนี้

วันนี้
ยังคงคล้าย
วันที่ผ่านมา

Thursday, July 10, 2008

loading..


ตอนปี1 เฟรชชี่เอ๊าะๆ เราได้รับเสื้อยืดเพื่อใส่เชียร์ในกิจกรรมรับน้อง สีดำเขียนว่าloading... มีแถบสีเขียวในกรอบยาวประมาณ1/4 เราก็คิดว่าไอ้วันที่มันโหลดเต็มแล้วเราจะเป็นยังไง ระหว่างรอดูนั้นก็มีเรื่องราวต่างๆมากมายคอยเติมเต็มให้แถบสีเขียวนั้นวิ่งไปเรื่อยๆ
ในที่สุดวันนี้มันก็โหลดเกือบเต็มแล้วล่ะ กำลังขึ้นคำว่าcompleted แต่ว่าหน้าต่อไปมันยังไม่ขึ้นอ่ะดิ อยากรู้จังว่าหน้าตามันจะเป็นยังไงนะ ...เตรียมตัวเพื่อลุ้นกับหน้าต่อไป ^^"

Thursday, June 26, 2008

นางแอ่น : คน : ความทุกข์



แว่วเสียงนกนางแอ่น

ปลิวฉิวแล่นถลาลม

ดูเจ้าช่างสุขสม

อภิรมณ์บนเวหา

ล่องลอยกลางนภา

สุดขอบฟ้าอันกว้างใหญ่

เมื่อใดหนอเมื่อใด

ฉันจะบินได้อย่างเจ้า

มนุษย์ช่างขลาดเขลา

โธ่ตัวเราเศร้าหมองหม่น

เสียชาติเกิดเป็นคน

ช้ำอกตนจมกองทุกข์


แสวงหาเสพสิ่งสุข

แต่ความทุกข์มิห่างหาย

ถึงแม้นหากชีพวาย

ขออย่าได้ลืมทำดี

+++++++++++++++++++++

แหงนมองนกนางแอ่นสองตัวบินโฉบฉิว ในขณะกำลังรำพึงรำพันถึงความทุกข์

ว่าแล้วก็คว้า2Bออกมานั่งขีดเขียนเพื่อระบาย

มอบแด่..เจ้านกน้อยผู้มีชีวิตอันน่าอิจฉา


น่าแปลกที่อุตส่าห์ได้เกิดเป็นคน..ยังมานั่งอิจฉานก // 7นาฬิกา พุธที่ 25 มิถุนายน 2551 บนชั้นที่14 ห้องพักแถวลาดพร้าว

Tuesday, May 20, 2008

ad ad ad และก็ ad ก็โลกนี้มันมีแต่โฆษณา

เมื่อเช้าได้อ่านสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงในการโฆษณาของอาจารย์iamia ก็เลยคิดว่า ถ้าTIMEจัดอันดับสิ่งที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกนี้ ที่ไม่ใช่คนนะ ผมว่าการโฆษณาชวนเชื่อน่าจะเป็นอันดับหนึ่ง ก็โลกใบนี้ล้วนเต็มไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อทั้งทางรายการโทรทัศน์ นิตยสาร เว็บ เพลง หรือแม้แต่คำพูด แต่ไอ้การที่จะยัดไปทื่อๆทู่ๆให้คนสนใจมันก็คงน่าเบื่อไปหน่อยนะ จึงต้องงัดกลยุทธ์ขายความคิดกันบ้าง

เอาล่ะมาว่ากันถึง ad บนเว็บไซต์กัน ทำไมนะเหรอ ที่เกริ่นมาทั้งหมดก็แค่ให้ดู ad ตัวนี้เท่านั้นเอง นั่งดูเว็บเกี่ยวกับการเขียนcv เจอเจ้า ad ตัวนี้เข้า เห็นว่าน่ารัก เหมาะแก่การหลอกล่อเยาวชนที่อยากรู้อยากเห็น ก็เลยเอามาให้ดู
ลาน้อยหางกุดของเราก็เคลื่อนที่ไป มีหางลากวางด้วย อารมณ์เล่นเกมส์เด็กอนุบาลเลย
แปะหางให้น้องลาหน่อย
แปะปุ๊บ เข้าโฆษณา
( (อยากรู้ว่าโฆษณาอะไร ก็เข้าเว็บหาadตัวนี้ คลิก เดี๋ยวก็รู้เอง) อันนี้ก็เข้าข่ายเป็นการโฆษณาแฝงอยู่เหมือนกันนะนี่)
ปล. มีวงเล็บซ้อนวงเล็บด้วย เท่จริง
ปล.2 รุ้สึกว่า blogspot ก็สะดวกดีนะ เหมือนมาม่าเทน้ำร้อนใส่กินได้เลย แต่ว่ามันไม่อร่อย
ปล.3 ช่วงว่างงานนี่รุ้สึกชีวิตจะหมดไปกับการดูสาวใน hi5 เป็นส่วนใหญ่

ดูดู๊ดู ดูเธอทำ


เห้ยตีสี่แล้ว!! ตื่นสาย ทำไงดี อดดูบอลเลย เซ็งจริงๆ เมื่อวันก่อนก็ต้องรีบออกไปธุระ อดดูcoffee princeสองตอนที่เหลือเลยอ่ะ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงดี ถึงแม้ว่าเราจะไม่มีไทม์แมชชีนแบบโดเรมอน แต่ว่าถ้าอยากดูรายการโทรทัศน์ย้อนหลัง ไปที่นี่เลย http://www.me.in.th/Live/ อันนี้เป็นเว็บไซต์ของระบบประเมินคุณภาพสื่อโดยกระทรวงวัฒนธรรมนะครับ เราสามารถร่วมโหวตเพื่อจัดเรตติ้งรายการโทรทัศน์ สามารถรับชมfree tvของไทยได้ทุกช่อง กรอกลับไปดูรายการย้อนหลังได้3เดือนแน่ะ
รวดเร็วทันใจดีครับ ไม่ต้องรอbufferอะไรนานมากมาย ติดที่จอเล็กและความคมชัดอาจจะน้อยไปหน่อย full screenได้นะแต่ไม่ค่อยเวิร์ก หวังว่าคงช่วยคอบอลและแฟนละครให้หายหงุดหงิดได้นะ

ข้อดี
- สะดวก เพราะย้อนกลับไปดูรายการโปรดได้ สามารถย้อนไป3เดือน
- เร็วดี แทบไม่ต้องรอbuffer
- ร่วมโหวตรายการได้ เพื่อจัดเรตติ้งรายการ หวังว่าจะทำให้รายการแย่ๆจะได้ออกไปซะที
- ไม่ต้องสมัครสมาชิกก็สามารถดูได้

ข้อด้อย
- จอค่อนข้างเล็ก ขยายก็ไม่ชัด
- รู้สึกว่าจะใช้ ie เปิดดูทีวีได้อย่างเดียว firefox opera safari ลองแล้วชมรายการไม่ได้เลย
- แถบเลื่อนเพื่อเลือกเวลาค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับจำนวนเวลา แถบนี้เทียบเท่ากับเวลาใน1วัน เลื่อนแรงไป อาจจะพลาดไปหลายนาที ลำบากนิดๆเวลาเลื่อนเพื่อข้ามโฆษณา

Friday, May 2, 2008

working woman

เนื่องด้วยเมื่อวานเป็นวันแรงงาน เราก็มาว่ากันด้วยเรื่อง working woman กันดีกว่า

  เมื่อไม่นานมานี้ครม.ของสเปน(ประกอบด้วยผู้หญิง 9คน ชาย 8คน) นำโดยพรรคสังคมนิยมแรงงานที่มีนายกรัฐมนตรีอายุ 48ปีเป็นนายกที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สเปน ได้ประกาศแต่งตั้งสาวเก่งวัย 37ปี นางการ์เม่ ชากอน ในตำแหน่งรมต.กลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลายๆคนคงคาดไม่ถึงว่าจะมีการแต่งตั้งผู้หญิงมาดูแลกองทัพเหล่าทหารหาญ ถึงแม้ว่าเธอกำลังท้องแก่ใกล้คลอด(7-8เดือน)แต่เธอก็แสดงความมาดมั่นด้วยการไปเยี่ยมทหารที่รักษาการณ์อยู่ในอัฟกานิสถานทันทีที่ได้รับการแต่งตั้ง

  เรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกตว่ารัฐบาลชุดนี้นอกจากรัฐมนตรีจะอายุไม่เยอะแล้วยังให้ความเสมอภาคระหว่างเพศชายและหญิงมากเป็นพิเศษ และการที่ผู้หญิงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมก็เป็นคำตอบที่แสดงว่าโลกนี้ต้องการได้รับการเยียวยาจากปัญหาความรุนแรงทั้งหลายเสียที

ปล.แล้วคุณมีคำตอบมั๊ยล่ะว่ารมต.กลาโหมไทยคนปัจจุบันที่จมูกบานๆเนี่ยเค้าเป็นเพื่ออะไร